ผมเคยเขียนบทความเรื่อง ‘ปัญหาทางม้าลายอันตราย’ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ไม่นึกว่าจะต้องมาเขียนอีกครั้งเมื่อกำลังจะครบ 3 ปี และมันก็เป็นสถานที่เกิดเหตุสถานที่เดียวกันเดิม คือกรณีหมอกระต่ายถูก Big Bike ชนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ช่างบังเอิญอะไรปานนั้น เหตุเกิดวันเดียวกันแต่ห่างกัน 3 ปี โดยจักรยานยนต์ชนนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่กำลังข้ามทางม้าลาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บล้มคว่ำศีรษะแตก ทั้งๆ ที่ทางม้าลายมีสัญญานไฟแดงขึ้นแล้ว แต่คนขับรถจักรยานยนต์หานำพาไม่ และเลนถนนที่ชนก็เป็นเลนขวาสุด เลนเดียวกับที่หมอกระต่ายถูกชน ผมได้เคยเสนอทางแก้ไว้ในบทความเดิมของผม (โปรดคลิก Link ด้านบน) ไม่ขอมาลงซ้ำในที่นี้ สรุปสั้นๆ แต่เพียงว่า จะอาศัยการบังคับใช้กฎหมายจากผู้รักษากฎหมาย คือ ตำรวจ แต่ฝ่ายเดียวมันเป็นไปไม่ได้ เลิกหวังไปได้เลยครับ มันต้องอาศัยแรงของประชาชนด้วยกันนี่แหละครับ โดยฝ่ายภาครัฐจะต้องบูรณาการหน่วยงานต่างๆ เข้ามาแก้ปัญหาด้วยกัน ไม่ใช่ต่างหน่วยงานต่างทำเหมือนปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ผลเต็มที่ ต้องมีการจัดทำ App ให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครจราจร เพื่อใช้ถ่ายภาพหรือวิดีโอแจ้งการละเมิดกฎจราจร…
ปัญหาทางม้าลายอันตราย
Photo by Kaique Rocha from Pexels ปกติบล็อกของผมนี้เป็นบล็อกความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมทั้งแสดงภาพที่ผมได้ถ่ายไว้ ไม่เคยเขียนเรื่องอะไรอื่นนอกเหนือจากนี้ไปเลย แต่ครั้งนี้จำต้องมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องปัญหาของทางม้าลาย ก็สืบเนื่องมาจากข่าวที่น่าสลดใจ กรณีหมอกระต่ายถูกรถมอเตอร์ไซด์ Big Bike พุ่งชนบนทางม้าลายจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ข่าวที่น่าเศร้านี้ได้สร้างกระแสรณรงค์เกี่ยวกับการข้ามถนนบนทางม้าลายเกิดขึ้นในสังคมไทย ทำให้ผมต้องขอร่วมรณรงค์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยของการข้ามทางม้าลาย แม้จะเป็นเสียงหนึ่งเพียงเสียงเดียวก็ตาม ซึ่งข้อเสนอของผมก็เกี่ยวข้องอยู่กับกล้องถ่ายภาพอยู่เช่นกัน จะว่าไม่เกี่ยวอะไรเอาเลยก็ไม่ได้ และก็เป็นข้อเสนอที่ผมยังไม่เห็นใครเสนอมาแบบที่ผมเสนอ ถ้าใครติดตามข่าวก็จะเห็นว่ามีความพยามในเรื่องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการละเมิดกฎจราจร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือทางองค์กรเอกชนก็ตาม ผมขอยกตัวอย่างตามที่หาข้อมูลข่าวสารมาได้ ดังนี้ – โครงการอาสาตาจราจร ให้ประชาชนทำหน้าที่พลเมืองดีตรวจตราการกระทำผิดจราจร โดยส่งคลิปหน้ากล้องหรือคลิปจากมือถือบันทึกการทำผิดกฎจราจร โดยส่งไปที่ศูนย์โซเชี่ยลมีเดีย ศปก.ตร. หรือสถานวิทยุ สวพ.91 หรือ จส.100 หรือเว็บไซต์มูลนิธิเมาไม่ขับ ซึ่งจะรวบรวมส่งต่อไปยังสถานีพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งโครงการนี้จะมีรางวัลให้เดือนละ 10 คลิป ตั้งแต่คลิปละ 2,000 – 20,000 บาท ซึ่งมาจากการคัดเลือกคลิปโดยมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมทั้งจัดหารางวัลให้ด้วย อันนี้ผมเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมากโครงการหนึ่ง เพียงแต่การตรวจตราการทำผิดครอบคลุมอยู่แค่เพียง 4 ข้อหาเท่านั้น…