เรื่องของ Joshua กับการออกเสียงภาษาอังกฤษ

 

การแข่งขันกีฬา SEA Games 2021 ครั้งที่ 31 เพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 (การแข่งขันครั้งนี้ใช้ชื่อปีว่า 2021 เพราะเลื่อนมาจากที่ต้องจัดในปี 2021 มาเป็นปี 2022) มีนักกรีฑาไทย 2 คน ที่สร้างชื่อเสียงโดดเด่นให้กับประเทศไทย (ความจริงก็มีหลายคน) คือ ภูริพล บุญสอน นักวิ่งระยะสั้น 3 เหรียญทอง คือ 100 เมตร 200 เมตร และ 4×100 เมตร และอีกคนคือ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน (Joshua Robert Atkinson) นักวิ่ง 4 เหรียญทอง คือ 400 เมตร 800 เมตร 4×400 เมตร และวิ่งผสม (ชาย-หญิง) 4X400 เมตร ที่ผมพูดถึงในวันนี้ คือ Joshua Atkinson ซึ่งได้รับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม เป็น 1 ใน 4 คน ของการแข่งขันครั้งนี้ (มีเวียดนาม 2 คน และสิงคโปร์อีก 1 คน) ภาพด้านล่าง คือ ภาพหนังสือรับรองการได้รางวัลดังกล่าวของจอชชัว

 

 

สังเกตไหมครับ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 ของเวียดนามปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม ตรงที่ผมวงกลมสีแดงไว้ที่ภาพนั่นแหละครับ นี่มันงานระดับนานาชาติ ไม่น่าพลาด ประสงค์จะพิมพ์ว่า great achievement ดันพิมพ์ผิดกลายเป็น greet achievement ทำงานใหญ่ทั้งที ควรตรวจสอบคำสะกดให้ละเอียดและรอบคอบกว่านี้

 

เหตุที่ผมยกชื่อ Joshua ขึ้นมา เพราะเป็นชื่อที่คนไทยส่วนใหญ่ออกเสียงผิดเป็น โจชัว  ซึ่งการออกเสียงว่า จอชชัว เป็นคำอ่านที่ถูกต้อง เขาเป็นนักกีฬาที่คนไทยไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นเด็กลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย แต่มาวิ่งให้กับทีมชาติไทยตามคำชักชวนของคุณแม่คนไทย ผมดูซีเกมส์ผ่าน Youtube เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในช่องต่างๆ ของ Youtuber ชาวไทย มีทั้งคนเขียนและออกเสียงว่า โจชัว บ้าง จอชชัว บ้าง  แถมมีคนมาคอมเม้นท์แบบหัวเราะก๊าก 555 กับคำอ่านออกเสียงเป็น จอชชัว หรือจ๊อชชัว เพราะเขาคิดว่าต้องออกเสียงว่า โจชัว

 

แม้ว่า Blog ของผมเป็น Blog เขียนเกี่ยวกับการถ่ายภาพเป็นหลัก แต่ก็เคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องภาษามาก่อนในหัวข้อเรื่อง “การอ่านออกเสียงคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำในวงการถ่ายภาพ” และ “การอ่านออกเสียงยี่ห้อภาษาจีนของอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ” ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่จะเขียนบทความที่เกี่ยวกับคำอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษอีกสักบทความหนึ่ง วัตถุประสงค์ก็คือต้องการรวบรวมคำอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษจำนวนหนึ่ง ที่คนไทยอ่านออกเสียงไม่ตรงกับคำอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ

 

คนไทยต่างกับฝรั่ง ตรงที่คนไทยฟังฝรั่งพูดไทยแล้วพยายามเดาว่าเขาพูดว่าอะไร แต่ฝรั่งไม่ใช่อย่างนั้นเลย ถ้าเราพูดคำภาษาอังกฤษผิด เขาจะไม่เข้าใจ และไม่มีความพยายามที่จะเข้าใจหรือเดาว่าเราพูดอะไร ภาษาอังกฤษไม่มีวรรณยุกต์ออกเสียงสูงต่ำแบบภาษาไทย มีแต่ Stress คือการลงเสียงหนักในแต่ละพยางค์ ถ้าเราพูดโดยไม่มี Stress หรือ Stress ผิดพยางค์ ฝรั่งจะไม่เข้าใจทันที หรือออกเสียงไม่ชัดตามสำเนียงภาษาอังกฤษ ฝรั่งก็เข้าใจผิดได้ ผมเองสมัยทำงานอยู่ที่นิวซีแลนด์ ก็เคยหน้าแตกมาแล้วกับการออกเสียงคำในภาษาอังกฤษมาแล้ว หลายคำเลย เคยนั่งคุยกับเจ้าของบ้านที่ผมไปเช่าบ้านเขาอยู่ คุยเรื่องจำนวนประชากรแกะในนิวซีแลนด์ซึ่งมีจำนวนมากกว่าจำนวนประชากรนิวซีแลนด์เยอะมาก โดยใช้คำว่า New Zealand sheep population ปรากฏว่าเจ้าของบ้านทำหน้างงขึ้นมา ทำให้ผมรู้ตัวทันทีว่า เราพูดไม่ชัดตรงคำว่า sheep ไปออกเสียงเป็น cheap แทน จริงๆ แล้วในภาษาอังกฤษมันจะออกเสียงคล้ายๆ กัน แต่จริงๆ แล้ว มันออกเสียงไม่เหมือนกัน เช่น sheep กับ cheap หรือ sheet กับ cheat หรือ ship กับ chip หรือ shy กับ child เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ ต่างก็มีสำเนียงเป็นของตัวเอง ออกเสียงไม่เหมือนกัน ตอนผมไปอยู่นิวซีแลนด์ใหม่ๆ จำได้ว่าเข้าไปในลิฟต์พร้อมผู้หญิงฝรั่งคนหนึ่ง ผมกดลิฟต์ชั้นที่จะขึ้นไป แล้วถามเขาว่าจะไปชั้นไหน เขาก็ตอบว่า ทิน ผมทำหน้างง เขาก็พูดซ้ำว่า ทิน ผมก็ยังงงอยู่เหมือนเดิมกดปุ่มไม่ถูก จนเขาขยับตัวเข้าไปกดชั้น 10 เป็นงั้นไป คนนิวซีแลนด์ (เช่นเดียวกับคนออสเตรเลีย) จะออกเสียง a กับ i คล้ายกัน เช่น David เขาจะออกเสียงว่า ไดวิด ชื่อบริษัทผลิตเครื่องไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของนิวซีแลนด์ คือ Fisher & Paykel เขาจะออกเสียง Paykel เป็น ไพเคิ่ล ความแตกต่างของการออกเสียง a กับ i อยู่ที่ตัว i จะออกเสียงยาวกว่าแบบ ไอ กับ อาย เมื่ออยู่ไปนานๆ ก็ชินกับสำเนียงนิวซีแลนด์ครับ ชินขนาดที่เมื่อรับโทรศัพท์ฟังแค่เสียงก็รู้แล้วว่าเป็นคนฝรั่งหรือคนเมารีพูด 

 

กลับมาที่จุดประสงค์หลัก คือ การรวบรวมคำอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษบางคำ ที่คนไทยเราอ่านไม่ตรงกับภาษาอังกฤษ ว่าคำนั้นในภาษาอังกฤษเขาออกเสียงอย่างไร และผมจะไม่ใช้วิธีสะกดคำอ่านตามหลักของสำนักงานราชบัณฑิตยสถานนะครับ เพราะเขาใช้หลักการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันโดยวิธีการถ่ายเสียง โดยไม่คำนึงถึงการใช้วรรณยุกต์ เช่น คำว่า Quota เขาจะเขียนว่า โควตา แต่อ่านว่า โควต้า หรือ Dollar เขียนว่า ดอลลาร์ แต่อ่านว่า ดอลล่าร์  หรือ Center เขียนว่า เซ็นเตอร์ แต่ไปอ่านว่า เซ็นเต้อร์ การไม่คำนึงถึงวรรณยุกต์ ผมว่ามันเหมาะสำหรับคนที่รู้ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษเลย หรือรู้แค่ เยส โน โอเค โคคาโคล่า เขาจะออกเสียงยังไง เห็นคำว่า จอชชัว เขาอาจจะออกเสียงว่า จอดชัว ก็เป็นไปได้ หรือชาวต่างชาติที่เรียนภาษาไทย ผมเคยได้ยินมาว่า พวกเขาก็งงที่คำทับศัพท์ไม่มีวรรณยุกต์กำกับ ทำให้ต้องเดาว่าคนไทยอ่านออกเสียงอย่างไร เพราะอ่านออกเสียงไม่ตรงกับคำเขียน  

 

ในบทความนี้ ผมจะเขียนคำอ่าน ป็นคำอ่านออกเสียงที่ใกล้เคียงคำอ่านจริง ไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์ที่ทางการกำหนด แต่จะยึดหลักกรูแทน และผมจะขีดเส้นใต้คำที่ออกเสียงหนักเพื่อให้รู้ว่าจะ Stress ตรงพยางค์ใด และขอให้เข้าใจว่าตัวอักษร v, j, g  แม้จะเขียนเป็น วี เจ และจี ก็ตาม แต่การออกเสียงในภาษาอังกฤษมันไม่ได้ออกเสียงแบบนั้น v จะมีเสียง ฟี เข้ามาแทรกกับ วี และ j จะมีเสียง เจ เข้ามาแทรกกับเสียง เย สุดท้าย g จะมีเสียง จี เข้ามาแทรกกับเสียง ยี ซึ่งมันเขียนเป็นพยัญชนะไทยให้ออกเสียงแบบเป๊ะๆ ไม่ได้ เคยเห็นเครื่องไฟฟ้ายี่ห้อ GE ไหมครับ เขาจะเขียนเป็นภาษาไทยว่า ยีอี หรือสี Beger เขาจะเขียนว่า เบเยอร์ กางเกง Jeans เขียนว่า ยีนส์ ซึ่งตัวอย่างคำที่ยกมานี้มันออกเสียงก้ำกึ่งผสมกันระหว่างเสียง จ กับ ย ราชบัณฑิตสถานเขาก็รู้ปัญหานี้ จึงกำหนดให้มีหลักเกณฑ์การถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียง(Transcription)  เช่น ก,ค=k  จ,ฉ,ช,ฌ =ch มีการตัดตัวอักษร g,j,q,v,z ออกไปจากระบบ อย่างไรก็ตาม กลับทำให้คนต่างชาติงงหนักเข้าไปอีก คนชื่อ สมใจ สมชาย สมชัย เขียนชื่อภาษาอังกฤษ เป็น Somchai เหมือนกันหมด ซึ่งถูกต้องตามหลักที่ราชบัณฑิตยสถานกำหนดไว้ คนไทยเองก็งงครับ เช่น ไปแปลข่าวต่างประเทศที่มีคนไทยชื่อ Somchai อยู่ในข่าว ก็น่าจะแปลเป็นไทยว่า สมชาย ทั้งๆที่เขาชื่อ สมใจ ก็เป็นไปได้ 

 

อนึ่ง คำที่รวบรวมมานี้เป็นเพียงบางส่วนไม่กี่คำเท่าที่นึกออก ตอนแรกตั้งใจว่าจะรวบรวมไว้สัก 50-70 คำ แต่ดูแล้วมันจะยุ่งยากและใช้เวลานานเกินไป ก็ขอเอาแค่ 30 คำ ก็พอครับ ยาวไปคนก็ขี้เกียจอ่าน และขอเรียนเพิ่มเติมว่า คำอ่านออกเสียงนี้ ผมไม่ได้ประสงค์ให้คนไทยเปลี่ยนวิธีพูดคำทับศัพท์เสียใหม่ ไม่ใช่เลยครับ คำบางคำเราใช้จนเคยชินแล้ว ก็ใช้ต่อไปไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร เช่น  Diesel เราอ่านว่า ดีเซล ก็ใช้ต่อไป เพียงแต่เมื่อเวลาเราจะพูดเป็นภาษาอังกฤษกับคนต่างชาติ ก็ควรรู้ว่าคำนี้อ่านออกเสียงว่า ดีเซิ่ล เท่านั้นเองครับ และคำอ่านออกเสียงในที่นี้จะแสดงทั้งวิธีอ่านตามภาษาอังกฤษแบบคนอังกฤษและคนอเมริกัน โดยคำอ่านแรกเป็นแบบอังกฤษ คำอ่านที่สองเป็นแบบอเมริกัน คำบางตัวเขียนหมือนกัน แต่ออกเสียงไม่เหมือนกัน เช่น Gas อังกฤษออกเสียงว่า ก๊าซ แต่อเมริกันออกเสียงว่า แก๊ส  คำว่า Mask อังกฤษออกเสียงว่า ม้าสก์ แต่อเมริกันออกเสียงว่า แม้สก์ แต่คำบางคำมันออกเสียงคล้ายกันมาก แม้ไม่เหมือนกันทีเดียวนัก แต่ผมจะระบุคำอ่านไว้แบบเดียว คำถาม แล้วคนไทยนิยมออกเสียงแบบไหนกัน ตอบว่า ผสมปนเปมั่วกันไปหมดครับ มีทั้งออกเสียงแบบอเมริกันและแบบอังกฤษ ไมมีมาตรฐานที่ชัดเจนตายตัว

คำอ่านภาษาอังกฤษบางคำที่มักออกเสียงไม่ตรงกับคำอ่านที่ถูกต้อง

Album                   แอลบั้ม

Amazon                อาเหมอะซอน/แอเหมอะซอน
Amateur                อาเหมอะเท่อร์/แอเหมอะเช่อร์
Aperture                อ๊าพเผอะเชอร์/แอ๊พเพอเชอร์
Archive                 อาร์ไค้ฟ
Balance                 บ๊ะเลิ้นซ/แบ๊ะเลิ้นซ
Calendar               คาเล็นเด้อร์
Card                       ค้าร์ด
Cherry                   แชร์รี่
Cover                    คัฟเว่อร์
Ferry                     แฟร์รี่
Harley                   ฮาร์ลีย์
Label                     เลเบิ้ล
Macro                    แม็คโคร
Merry                    แม้รี่
Murray                  ม้ารี่/เม้อรี่
Pixel                      พิกเซิ่ล
Portrait                  พอร์เถรด
Quay                      คีย์
Rachel                    เรเชิ่ล
Richard                  ริชเฉิร์ด
Robert                    รอเบิร์ต
Salmon                   ซาเหมิ่น/แซเหมิ่น
Suite                       สวี้ท
Tune                       ชูน/ทูน
Vlog                        วล็อก
Volume                  วอล์ยุ่ม/โวล์ยุ่ม
Warp                      ว๊อร์พ
Warwick                วอร์ริค
Worcester              วู้สเต้อร์

สมัยนี้ การค้นคำอ่านภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง มันทำได้ง่ายนิดเดียว ค้นผ่าน Google เช่นคำว่า Joshua ก็พิมพ์คำว่า Joshua pronunciation ก็รู้แล้วไม่ว่าการออกออกเสียงแบบอังกฤษหรืออเมริกัน คลิกที่นี่ก็จะปรากฏดังภาพด้านล่าง