เล่าประสบการณ์สั่งซื้อ Kindle ebook จาก Amazon ญี่ปุ่น

ผมเปิดบัญชีใน Amazon อเมริกามานานแล้ว และสั่งหนังสือ ebook มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการอ่านผ่าน App ในมือถือ ใน iPad หรือใน iMac ตลอดจนอ่านบนเครื่องอ่าน Kindle paperwhite ซึ่งทุกเล่มสามารถ sync กันได้หมด นับว่าสะดวกมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้ เกิดเห็น ebook ภาษาญี่ปุ่นอยู่เล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพ วางจำหน่ายเฉพาะที่ Amazon ญี่ปุ่น ลองหาใน Amazon อเมริกา ก็ไม่มีขาย มีแต่ใน Amazon ญี่ปุ่นเท่านั้น 

ดังนั้น ก็ต้องหาวิธีว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถ download มาอ่านได้ ผมลองค้นดูข้อเขียนต่างๆ ในเว็บ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่าต้องทำอย่างไร จึงจะเอา ebook จาก Amazon ญี่ปุ่นมาได้ ซึ่งเท่าที่รวบรวมหาข้อมูล มาได้มีประมาณนี้

– เบื้องต้น Amazon ญี่ปุ่น จะไม่อนุญาตให้ download ebook ออกนอกประเทศญึ่ปุ่น ไม่เหมือนกับ Amazon อเมริกาที่อนุญาต จึงมีวิธีเดียวที่จะ download ได้ ต้องใข้ VPN (Virtual Private Network) มุดเข้าไปทำตัวเสมือน device ของเราใช้ ip Address ของญี่ปุ่น จึงจะซื้อ ebook ของเขา แล้ว download เข้ามายังเครื่องของเราที่อยู่ในไทยได้ การใช้ VPN ก็แค่เพียงใช้ตอนขอเปิดบัญชีเท่านั้น

– ต้องเปิดบัญชีใหม่ที่ Amazon ญี่ปุ่น บัญชีที่ Amazon อเมริกาที่มีอยู่จะนำมาใช้ไม่ได้ แต่จะใช้ email เดียวกันกับที่ Amazon อเมริกา ก็ได้ หรือจะใช้คนละ email ก็ได้เช่นกัน สำคัญอยู่ที่ password ต้องต่างกัน

–  ต่อจากนั้น กรอกรายละเอียดของเรา ที่อยู่ของเราในญี่ปุ่น เมื่อผ่านแล้ว ก็ใช้เครดิตการ์ดหรือเดบิตการ์ดของไทยเรานี่แหละ สั่งซื้อ ebook ได้เลย

ทีนี้ เเม้ว่าเราทราบหลักการเบื้องต้นแล้ว แต่จากประสบการณ์ผมจะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อความชัดเจน และอาจต้องแก้ปัญหาบางประการที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อแนะนำเพิ่มเติม

1. จริงอยู่ใช้ email address เดียวกันได้เพื่อ login เปิดบัญชี แม้ว่าใข้คนละ password กันก็ตาม แต่ผมมีความรู้สึกส่วนตัวว่า ถ้าใช้คนละ email น่าจะสะดวกกว่า ทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เราสับสน เท่านั้นเองครับ ซึ่งผมเองก็ใช้ email address ตัวเดียวกัน ซึ่ง browser ตัวที่ใช้ปกติเราจะ save password ไว้ หากรีบๆ หรือดูไม่ละเอียดว่ามันเป็น Amazon อเมริกาหรือญี่ปุ่นกัน ทำให้เราเข้าเว็บไม่ได้ เพราะใช้ password ของคนละเว็บ

2. ข้อมูลของตัวเราในการจะเปิดบัญชี ต้องระบุเมืองที่อยู่ บ้านเลขที่ รหัสไปรษณีย์ และเบอร์โทรศัพท์ในญี่ปุ่นด้วย แล้วเราจะเอาข้อมูลมาจากไหน ไม่ยากเพียงเปิด Google หารายละเอียดเหล่านี้ เอารายละเอียดที่อยู่พวกร้านค้า ร้านอาหาร หรือโรงแรม เป็นต้น ซึ่งปกติก็มีข้อมูลครบอยู่แล้ว เราอาจเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็ได้ เช่น เลขที่ เบอร์โทรศัพท์ เราไม่ได้หลอกลวงแต่จำเป็นต้องใส่ที่อยู่ในญี่ปุ่น ที่สำคัญมันเป็นการใช้บัตรเครดิตของเราเองสั่งซื้อ ebook

3. ถ้าคุณใช้ App Kindle หรือเครื่องอ่าน Kindle paperwhite คุณไม่สามารถใช้เครื่องเดิมหรือเปิด 2 บัญชีได้ อันนี้สิครับที่เป็นปัญหาประการหนึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ในเครื่อง Kindle paperwhite  จะต้อง deregister หรือถอนบัญชีเดิมของคุณในเครื่องออกไป แล้วจึงจะใช้บัญชี Amazon ญี่ปุ่นได้ อันนี้ เป็น option ที่ผมไม่เลือก เพราะหนังสือญี่ปุ่นที่ผมซื้อก็แค่เล่มเดียว ที่สำคัญเป็นหนังสือเกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพ มีภาพถ่ายสีอยู่เยอะมาก Kindle paperwhite ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับผม เพราะมันเป็นขาว-ดำ และจอแค่ 6.8 นิ้ว ส่วน Kindle App บนโทรศัพท์มือถือ Android ของผมก็ไม่เหมาะเช่นกัน เพราะหน้าจอมันยิ่งเล็กกว่า ทีนี้ก็เหลืออีก 2 ตัวเลือก คือ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ iMac หรือ iPad ผมเลือก iMac เพราะหน้าจอใหญ่เห็นภาพถ่ายชัดเจน อีกประการหนึ่ง บน iPad ผมไม่เห็นตัวเลือก deregister ใน Kindle App แต่อย่างใด มีแต่ Close your Amazon account เช่นเดียวกันกับในโทรศัพท์มือถือ Android ซึ่งการ deregister นี่ เมื่อเรากลับมา register ใหม่ หนังสือของเรายังคงอยู่ เพียงแต่ต้อง download ใหม่ ส่วนการปิด account นี้ ปิดแล้วปิดเลย หนังสือจะหายหมด

สำหรับการ deregister นั้น เราสามารถทำได้หลายๆ ครั้ง สลับ account ไปมาได้ แต่ก็ต้องยอมรับถึงความไม่สะดวกอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดี ยังมีโชคช่วยหากไม่ต้องการ deregister เราสามารถ log in เข้าบัญชี Amazon อเมริกา ได้ที่ read.amazon.com/landing เพื่ออ่านหนังสือ ebook ผ่าน web browser ได้ ที่เรียกกันว่า Kindle for Web หรือ Kindle Cloud Reader อันนี้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ต้อง online ตลอดเวลา แต่ถ้าจะอ่านแบบนี้ผ่านบัญชี Amazon ญี่ปุ่น นั้น เพียงแค่เปลี่ยน url ใหม่เป็น read.amazon.co.jp/landing ก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องเข้าผ่าน VPN แต่อย่างใด ทางที่ดีควร log in เข้าเว็บ Amazon ของอเมริกาก่อน เพราะบางครั้งทางเว็บจะส่ง code ผ่านโทรศัพท์มือถือของเราเพื่อให้ยืนยันตัวตนก่อน หลังจากนั้น จึงค่อยเข้าเว็บ Amazon ญี่ปุ่น ระบบจะไม่ส่ง code มาให้กรอกทางมือถืออีก

4. ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Kindle App บน Mac นั้น มันมี 2 เวอร์ชั่น (ไม่แน่ใจในส่วนของ Windows เพราะผมไม่ได้ใช้) คือ Kindle App ที่เรียกว่า Classic version 1.40 จำไม่ได้ว่าโหลดผ่าน App Store หรือโหลดมาจากเว็บ Amazon เพราะโหลดมาใช้หลายปีแล้ว กับตัวเวอร์ขั่น 7.17 (มันเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับ Kindle for iPad)  ซึ่งผมเพิ่งโหลดมาจาก App Store เพื่อใช้กับบัญชี Amazon ญี่ปุ่น ทำให้สามารถใช้ Kindle App ต่างเวอร์ชั่นกัน สามารถเปิดใช้พร้อมกัน 2 บัญชีได้ เลยจบแบบ Happy ending ดังภาพด้านล่างนี้