จับ OM-1 ยัดใส่กรง

ขอนุญาตตั้งหัวข้อเรียกแขก วันนี้เราจะมาพูดถึงกล้อง Olympus รุ่น OM-1 และ E-M1 Mark II, Mark III กับกรง หรือ Cage ซึ่งใครที่ใช้กล้อง DSLR หรือ Mirrorless ใช้ถ่ายวิดีโอเป็นหลัก ย่อมรู้จัก Cage เป็นอย่างดี และใครที่ใช้เน้นไปในทางถ่ายภาพนิ่งก็อาจจะนิยมใช้ L-Bracket หรือ L-Plate ในข้อเขียนนี้ จะกล่าวถึง Cage ยี่ห้อ SmallRig ตัวหนึ่งที่เพิ่งออกมาเมื่อเลยกลางปี 2022 นี้ สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้กับกล้องทั้ง 3 รุ่น ตามที่อ้างถึงข้างต้น และยังนำ Cage นั้น มาใช้งานแทน L-Plate ได้เป็นอย่างดี ทำให้ลืม L-Plate ไปได้เลย 

 

ทั้งนี้ ผมเป็นเพียงผู้ใช้คนหนึ่งเท่านั้นสำหรับ Cage ของ SmallRig และในฐานะผู้ใช้กล้องโอลิมปัส มีอุปกรณ์อะไรที่สามารถใช้กับกล้องโอลิมปัส/OM System ได้ ผมก็จะนำเสนอให้ผู้ใช้กล้องยี่ห้อนี้ได้รับทราบ เป็นอย่างนี้มาตลอดแล้วครับ

 

Cage ของ SmallRig สำหรับ OM System OM-1 รุ่น 3948 นี้ สามารถใช้ร่วมกันได้กล้อง Olympus E-M1 Mark II และ Mark III ได้ด้วย ทำไมม้นถึงใช้ด้วยกันได้ เดี๋ยวจะอธิบายภายหลังครับว่าเพราะอะไร ทั้งๆ ที่ฐานของกล้อง OM-1 กับ E-M1 Mark II และ III ขนาดมันไม่เท่ากัน

Cage รุ่นนี้ถือว่ามีขนาดเล็ก ซึ่งบางคนเรียกว่า  Mini Cage หรือ Half Cage น้ำหนักเพียง 120 กรัม เท่านั้น ซึ่งเบามากเพราะทำด้วยอลูมิเนียมอัลลอย การจับถือไม่กระทบกับ Handgrip ของกล้อง เพราะขอบของ Cage ที่ติดอยู่ตรงโคน Grip ของกล้องนั้น ค่อนข้างบาง นอกจากมีรูเกลียวขนาด 1/4”-20 และ 3/8”-16 ที่จะติดอุปกรณ์ต่างๆ ทางด้านบนและด้านข้าง ด้านข้างเป็น NATO Rail ในตัว ตลอดจนมี Cold Shoe ที่มุมบนของ Cage แล้ว ที่สำคัญคือ ตรงฐานของ Cage จะเป็นแบบ Arca-Swiss Quick Release Plate ทำให้การวางกล้องบนขาตั้งกล้องหรือ Tripod เป็นไปอย่างสะดวก ซึ่ง Tripod ที่ใช้หัวบอล ส่วนใหญ่ในท้องตลาดก็จะผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับ plate แบบ Arca-Swiss  ส่วนบางยี่ห้อ เช่น Manfrotto ที่มี plate แบบเฉพาะของตัวเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากจะนำไปใช้กับ plate แบบ Arca-Swiss โดยการใช้ plate adapter 

งานถ่ายวิดีโอหากมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมาติดรวมกันกับกล้องก็จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น เช่น ติดไมค์สำหรับบันทึกเสียง ติดไฟ LED ติดมอนิเตอร์ภายนอกซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าจอของกล้อง และอุปกรณ์จับประเภท Top Handle หรือ Side Handle หรือไม่ก็ Follow Focus เพื่อใช้กับ Cine Lens เป็นต้น การใช้ Cage จึงตอบโจทย์การถ่ายงานวิดีโอเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสาย Stocker ที่ทำงานคนเดียว

ผมเลือก Plate ตัวใหญ่ เหตุผลคือ เวลาถ่ายภาพหรือแม้แต่ถ่ายวิดีโอก็ตาม สามารถจับตัว Plate ได้ถนัดมือเสมือนมี Grip อีกด้านหนึ่ง หรือวางกล้องแนวตั้งไว้บนโต๊ะหรือพื้นราบได้เสถียรกว่า โดยกล้องไม่ล้ม ซึ่ง Plate ขนาดเล็กและขนาดกลางใช้วางกล้องแนวตั้งไม่ได้ แต่ Plate ตัวเล็กมีข้อดีตรงที่สามารถหมุนจอพับได้ของกล้องแบบไม่ติดอะไร ขณะที่ Plate ตัวใหญ่จะทำให้การหมุนจอมันไม่สุดมีติดอยู่บ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ ถ้าเราใช้เลนส์ที่มีขนาดเล็ก เวลาไปหมุนกระบอกเลนส์ Plate ตัวใหญ่ จะทำให้รู้สึกเกะกะมือไปนิดหนึ่ง

 

 

การใช้งานถ่ายวิดีโอ ถ้าต้องการให้มี handle ด้านซ้ายของกล้อง ก็ต้องใช้ Side Handle ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับงานประเภทวิดีโอแท้ๆ ซึ่ง SmallRig ก็มี Side Handle ให้เลือกใช้ได้หลายแบบ แบบที่ผมต้องการ คือ เล็กและเบาเป็นหลักสำคัญ หวยจึงออกที่ Mini Side Handle รุ่น 2916 ซึ่งมีขนาดเล็ก น้ำหนัก 139 กรัม สูง 10 ซม. วัสดุประกอบด้วยอลูมิเนียมอัลลอยและพลาสติก Polycarbonate + ABS ติดตั้งแล้วก็มีความสะดวกในการจับถือในการใช้ถ่ายวิดีโอ ปรับเลื่อนตัว Handle ขึ้นลงหาตำแหน่งที่เราถนัดมือได้ ด้านบนมีรูเกลียวขนาด 1/4” ให้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ และมี Eyelet ถึง 4 ตำแหน่ง คือ รูสำหรับร้อยเชือกหรือสายได้ และตามสไตล์ของ SmallRig มีประแจหกเหลี่ยมแถมมาให้ โดยเสียบอยู่ในรูตรงด้านล่างของ Handle ซึ่งมีแม่เหล็กติดตั้งอยู่ในนั้น

 

ตามที่เกริ่นเอาไว้ว่า Cage รุ่นนี้ใช้กับ E-M1 Mark II และ Mark III ได้ นั้น ผมเคยดูช่อง Youtube ต่างประเทศ มีคนรีวิว Cage รุ่นนี้คนหนึ่งได้ปล่อยไก่ว่า ถ้านำไปใช้กับ E-M1 Mark III แล้ว มันจะหลวม ไม่แนบสนิทกับกล้อง ทำให้ใช้งานไม่ได้ แต่ต่อมาเขาก็ได้เข้าไปแก้ไขในส่วนของ Description ว่าเป็นเพราะเขาทดสอบไม่ละเอียดเอง Cage รุ่นนี้ใช้กับกล้อง E-M1 Mark III ได้

 

ทำไมมันถึงใช้ด้วยกันได้ทั้งๆ ที่ฐานของ OM-1 มีขนาดใหญ่กว่า E-M1 ทั้ง 2 รุ่นนั้น ความจริงฐานมันก็ใหญ่กว่านิดเดียวเองครับ ถ้าเป็น L-Plate ของ E-M1 Mark II และ III นำมาใช้กับ OM-1 ไม่ได้ มันจะแนบไม่สนิทมีช่องว่างอยู่ แต่สำหรับ Cage รุ่นนี้ เขาได้ออกแบบให้ช่องหรือรูที่ใส่สกรูตรงฐานของ Cage มีลักษณะกลมยาว คือ ใช้เลื่อนขยับตัวสกรูและ Cage ได้ ลองสังเกตดูภาพที่ 3 ด้านบน หรือภาพด้านล่างนี้ก็ได้ ตรงรูที่ขันสกรูเพื่อยึดกับ Socket ของฐานกล้อง จะเห็นลักษณะของรูดังกล่าว ซึ่งเราสามารถเลื่อนตัวสกรูได้ ลองขยับ Cage เข้าออกก็ติดแน่นสนิทแล้วครับ ซึ่งภาพที่ 3 ด้านบนจะเห็นตำแหน่งสกรูเมื่อใช้กับ OM-1 อยู่ตรงด้านล่างของรู ส่วนภาพด้านล่างนี้ ตำแหน่งสกรูเมื่อใช้กับ E-M1 Mark III อยู่ตรงด้านบนของรู

 

 

สรุปสั้นๆว่า Cage ตัวนี้ดีจริงครับ ใช้งานได้ดีทั้งงานวิดีโอและงานถ่ายภาพ มีความเป็นเอนกประสงค์มาก ทำให้ผมเองไม่คิดจะหา L-Plate สำหรับ OM-1 เพราะนำมาประยุกต์ใช้งานเป็น L-Plate ได้ และเมื่อติดแล้วก็ไม่คิดจะถอดออก กลายเป็นอุปกรณ์ติดกล้องไปเลย

 

ถ้าจะมีข้อติบ้าง ก็คือด้านบนของมันที่ยื่นออกมาจากกล้อง ทำให้ดูหนาเทอะทะ ปัญหาเวลาใช้เลนส์ตัวเล็กๆ แล้ว มันจะมองไม่เห็นสเกลของเลนส์ โดยเฉพาะเลนส์แมนนวล เปรียบเหมือนคนอ้วนลงพุง เวลายืนแล้วก้มมองไม่เห็นนิ้วเท้าของตัวเอง แต่ก็เข้าใจคนออกแบบ เพราะเขาต้องการไม่ให้ตัว Cage มันไปบังปุ่มต่างๆ ของด้านบนตัวกล้อง ดังนั้น การจะปรับสเกลของเลนส์แมนนวลตัวเล็กๆ ก็ต้องเงยกล้องเข้าหาตัวเพื่อให้เห็นสเกล 

 

นอกจากนี้ การถอดเลนส์เข้าออก ทางด้านข้างของ Cage โดยที่มันยื่นออกมาจากตัวกล้องเช่นกัน เวลาจะกดปุ่มปลดล็อกเลนส์ ก็ต้องเอื้อมนิ้วเข้ามาลึกๆ หน่อย หากติด Plate ด้านข้างอีก ก็จะทำให้ไม่สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็แก้ได้ด้วยการเอื้อมนิ้วผ่านใต้กล้องแทน ข้อสุดท้าย ราคาสูงสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ได้มีกลไกอะไรซับซ้อน