รีวิว L-Bracket ไม่มียี่ห้อ สำหรับกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark II และ III

ผมเคยเขียนบทความเรื่อง รีวิว L-Bracket ยี่ห้อ ProMaster สำหรับกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark II”  ไว้เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเราใช้ Bracket หรือ Plate แบบนี้วางบนขาตั้งกล้องได้ทั้งการวางกล้องในแนวนอนและแนวตั้ง โดยใช้ติดใต้ฐานกล้อง และใช้กับขาตั้งกล้องที่มีหัวบอลแบบ Arca-Swiss  ซึ่งในขณะนั้น ProMaster L-Bracket สำหรับกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark II เป็นของที่มีราคาถูกที่สุดแล้ว คือ 60 เหรียญสหรัฐ 

 

ในปี พ..2563 นี้ ที่มีกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark III ออกมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ถ้าถามว่า L-Bracket ตัวเดิมที่ใช้กับกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark II นั้น จะใช้ได้กับรุ่น Mark III ได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ใช้ได้ครับ เพราะขนาดของฐานกล้องมันไม่ได้แตกต่างกันเลย จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ และถ้าถามต่อไปว่า แล้วมี L-Bracket ที่ใช้กับกล้องรุ่นนี้มีเพิ่มขึ้นหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ามีเพิ่มขึ้นหลากหลายยี่ห้อครับ แต่ที่สำคัญ คือ ราคาโคตรถูกอย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว

 

ข้อเขียนนี้จะรีวิว L-Bracket ที่ไม่มียี่ห้อ (No Brand) ราคาถูกแค่ 300 บาท แต่ใช้งานได้ดีกว่าของราคา 100 กว่าเหรียญสหรัฐ Packaging อะไรก็ไม่มีนะครับ แค่ใส่ถุงพลาสติกมาให้เท่านั้นเอง

ผมสั่งซื้อ L-Bracket ตัวนี้จากลาซาด้าในราคา 300 บาท รวมค่าส่งด้วยแล้ว ราคาขนาดนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ เป็นของจีน สั่งซื้อไปใช้เวลา 10 วัน ก็ได้รับของ ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็มีร้านขายของแบบนี้ในลาซาด้าหลายร้าน ตัวที่แพงขึ้นกว่านี้อยู่ในราคา 600 กว่าบาท ซึ่งเป็นของไม่มียี่ห้อเหมือนกัน ตอนแรกผมก็คิดจะสั่งตัวที่มีราคา 600 กว่าบาท อยู่แล้ว แต่พอดีสังเกตเห็นว่า ตรงฐานของ L-Bracket มันไม่มีรูสำหรับใช้กับอุปกรณ์เสริม ก็เลยค้นหาไปเรื่อยๆ จนเจอตัวที่ต้องการและราคาถูกกว่าอีก คือ มันมีรูเจาะไว้เรียบร้อย จะใช้กับอุปกรณ์เสริมอะไร ดูรูปด้านล่างนี้เลยครับว่ารูตรงฐานนี้มันมีประโยชน์อย่างไร

 

การออกแบบ Plate ด้านข้าง ทำได้ดีกว่ารุ่นเก่าๆ จากบทความที่แล้วที่อ้างถึงข้างต้นนั้น มันมีข้อจำกัดสำหรับการใช้งาน Plate ด้านข้าง คือ เรากางจอ LCD ออกได้นิดเดียว ทำให้การใช้งานลำบาก แต่ปัจจุบันมีบริษัทหัวใสได้แก้ปัญหาเรื่องการกางจอ LCD ด้านข้างได้ค่อนข้างดีแล้ว ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัทใด แต่ก็เห็นยี่ห้อ Mengs ซึ่งก็เป็นยี่ห้อจีนอีกเช่นกัน เขาก็ขาย L-Bracket แบบนี้เช่นกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าแรกหรือเปล่าที่ออกแบบ Plate ด้านข้างแบบนี้ ซึ่งของไม่มียี่ห้อที่ผมสั่งนี้ ก็น่าจะเลียนแบบสินค้ายี่ห้ออื่นๆ  แต่ขายในราคาที่ถูกกว่ามาก Plate ด้านข้างนี้ เราสามารถถอดออกได้โดยใช้ไขควงหกเหลี่ยม (ผู้ขายแถมมาให้ด้วยแล้ว)                                           

การใช้ Plate ด้านข้างแบบนี้ ทำให้เราหมุนจอ LCD ของกล้องได้หลากหลาย แม้จะทำได้ไม่เท่ากับตอนถอด Plate ด้านข้างออกก็ตาม แต่ผมว่า มันก็ทำได้ราวๆ 90%  เลยทีเดียว 

 

ภาพด้านล่าง ถ้าเรากางจอ LCD ออกตรงๆ ก็ทำได้เหมือนยี่ห้ออื่นๆ ไม่ได้แตกต่างกัน คือ กางง้างออกได้เต็มที่ก็ราวๆ 135 องศา ประมาณนั้น

แต่ถ้าเราบิดจอ LCD ให้เข้าไปในช่องของ Plate ด้านข้าง ก็จะทำได้ดีทีเดียว ซึ่งภาพด้านล่างแสดงจอแบบหงายขึ้นในระดับสายตา                 

ถ้าหากต้องการถ่ายภาพจากระดับเอว หรือต่ำกว่าสายตามาก ก็บิดจอ LCD แบบในภาพนี้ก็ได้

ถ้าต้องการคว่ำจอ LCD ลง ในกรณีที่ต้องการถ่ายภาพแบบชูกล้องชึ้นสูง เช่น การถ่ายภาพท่ามกลางฝูงชนหรือสิ่งกีดขวาง ก็ทำได้เช่นกันโดยไม่มีอุปสรรคในการมองจอ LCD ดังภาพนี้

 

บังเอิญจริงๆ ผมถอด Plate ด้านข้างออกมา แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ดันใส่ผิดกลับหัวกลับหาง เป็นแบบนี้

 

 

ปรากฏว่ากลับนำมาใช้งานได้ดีนะครับ มือซ้ายจับ Plate ที่ห้อยลงมา มือขวาก็จับที่กริ๊บตามปกติ มันกลับทำให้กล้องนิ่งเพิ่มขึ้นจริงๆ  ผมเชื่อว่าอย่างน้อยๆ มันเพิ่มในเรื่องกันสั่นขึ้นอีกอย่างน้อยก็ 0.5 stop ชอบจริงๆ ครับ

 

สำหรับน้ำหนักนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับยี่ห้อ ProMaster ที่ผมใช้อยู่เดิม วัสดุก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน คือ ไม่ได้เป็นโลหะหรือเหล็ก เพราะทดลองใช้ทาบกับแม่เหล็กแล้ว เข้าใจว่าเป็นอลูมิเนียม

 

สรุป  L-Bracket ตัวนี้ถูกใจมาก เหตุผลประกอบด้วย ราคาถูกเหลือเชื่อ ซื้อได้ทันทีไม่ต้องคิดอะไรมาก มีรูใต้ฐานทำให้สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์อย่างเช่น Mini Tripod หรือ Tabletop Tripod ตัวเล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้หัวบอลได้ และเรื่องการออกแบบ Plate ด้านข้าง ทำให้สามาถปรับหมุนจอได้อย่างค่อนข้างเป็นอิสระได้ทุกมุม สุดท้ายก็ใส่ Plate ด้านข้างกลับหัวเพื่อใช้มือซ้ายจับช่วยเพิ่มระดับกันสั่นของกล้องได้อีก