การบริหารจัดการไฟล์ภาพ (เพื่อส่งภาพขายที่เว็บ Stock) ตอนที่ 4

การบริหารจัดการไฟล์ภาพ ตอนที่ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายนี้ เป็นอีกแนวความคิด หนึ่งของการบริหารจัดการไฟล์ภาพ โดยการแยกโปรแกรมบริหารจัดการไฟล์ออกจากโปรแกรม image editor คือ แยกไปคนละส่วน คนละโปรแกรม ไม่ขึ้นแก่กันเลย ทำให้ผู้ใช้เลือกที่จะใช้โปรแกรมอะไรก็ได้ไป process ภาพ 

 
โปรแกรมที่นำเสนอ คือ Neofinder โปรแกรมจากบริษัทผู้ผลิตสัญชาติเยอรมัน และมีแต่เวอร์ชั่น Mac เท่านั้น  แต่ก็มีโปรแกรมคล้ายๆ กัน เป็นโปรแกรมเยอรมันเหมือนกันที่มีแต่เวอร์ชั่น Windows คือ abeMeda   โดย Neofinder พัฒนามาจากโปรแกรมชื่อ CDFinder ส่วน abeMeda พัฒนามาจากโปรแกรมชื่อ CDWinder ทั้ง Neofinder และ abeMeda สามารถแชร์ catalog ระหว่างกันได้ เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมพันธมิตรกัน  โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์ผมใช้แต่ Mac  จึงไม่สามารถจะไปโหลด abeMeda มาทดลองติดตั้งได้
 
Neofinder (v.7.2.1) เป็นโปรแกรม database ที่ต้อง import บรรดาโฟลเดอร์ หรือ volume (hard drive ทั้งลูก) เข้าไปสู่ระบบ catalog ของโปรแกรม ไม่ได้เป็นโปรแกรมประเภท browser โปรแกรมนี้ ไม่ได้เพียงแค่อ่านเฉพาะไฟล์ภาพและไฟล์วีดีโอ เท่านั้น แต่อ่านไฟล์เกือบทุกประเภทที่เป็น digital ไม่ว่าไฟล์เสียง ดูไฟล์ที่ถูกบีบอัดผ่านไฟล์ zip rar และ tar ดูไฟล์ pdf ไฟล์เอกสารไม่ว่า txt  rtf หรือ docx เป็นต้น แต่ในบทความนี้ เราจะพูดกันเฉพาะไฟล์ภาพเท่านั้น
ถ้าเราคลิก Thumbnail เพื่อเปิดไฟล์ ไฟล์ก็จะเปิดผ่านโปรแกรม Preview ของ  Mac การจะให้ภาพใน Thumbnail เปิดด้วยโปรแกรมอะไร ต้องตั้งค่าผ่านระบบการเปิดภาพของ Mac  ไม่เกี่ยวกับ Neofinder แต่ตัวโปรแกรม Neofinder ก็มี viewer เป็นของตัวเอง โดยคลิกที่ไอคอน Quick Look บน Toolbar แต่ดูแล้วมันไม่สามารถขยายภาพดูที่ 100% ได้ อย่างไรก็ดี มันน่าจะเป็นโปรแกรมเดียวในขณะนี้ที่สามารถคลิกดูภาพ  thumbnail ไฟล์ของโปรแกรม Affinity ได้ทั้ง Affinity Photo (ไฟล์ฟอร์แมต .afphoto) และ Affinity Designer (ไฟล์ฟอร์แมต .afdesignนอกจากนี้ ยังดูไฟล์ Skylum Luminar (ไฟล์ฟอร์แมต .lmnr) ก็ได้ นับว่าดีมากในข้อนี้ เพราะตัวผมเองมีโปรแกรมทั้ง 3 โปรแกรมนี้ใช้อยู่แล้ว ส่วนการจะ process ภาพ ทำผ่านโปรแกรมอื่นๆ ได้หมด ไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด
 
การสร้าง Collections แบบเดียวกับ Lightroom  ทำได้ครับ ทั้ง Collection Sets และ Collections  แต่จะ migrate มาจาก Lightroom แบบที่ Photo Raw  ทำนั้น Neofinder ทำไม่ได้ เท่ากับว่าเราต้องสร้าง Collections ขี้นมาใหม่ทั้งหมด  ถ้าจะโอนของเก่าใน Lightroom มาแบบ manual  มันไม่แย่หรือ แน่นอนครับ ถ้าไฟล์มันมีมาก มันก็แย่จริงๆ  แต่ถ้าเป็นผม ผมจะใช้วิธีว่าของเก่าใน Lightroom ตัดตรงเดือนไหนก็กำหนดให้แน่ชัด ส่วนของใหม่ที่จะใช้ Neofinder ก็จะเริ่มเดือนไหน ก็ว่าไป ทำอย่างนี้มันจะง่ายกว่า ของเก่าถ้ามีเวลาก็ค่อยๆ ทยอยทำไป 

 
Keyword มันจะเหมือนใน Lightroom คือ keyword จะเรียงลำดับตามตัวอักษร แม้ว่าเราจะใส่เรียงตามความสำคัญในโปรแกรมอื่นมาก็ตาม ไม่ว่า Phtoto Mechanic หรือ Photo Raw แต่ความจริงก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก เพราะถ้าเราส่งไฟล์ไปเว็บ stock ที่เว็บนั้นๆ แสดง keyword ตามที่เราเรียงไว้ มันก็จะแสดงตามามลำดับแบบที่เราฝังไว้ในไฟล์ แต่บางเว็บก็เลือกจะแสดง keyword ตามลำดับตัวอักษร ก็ไม่เป็นไร 
 
จุดน่ารำคาญก็คือ ไฟล์ภาพแต่ละภาพถ้าเราใส่ keyword ในโปรแกรมอื่น Neofinder มันไม่รับรู้ด้วย ไม่เหมือน Lightroom ที่จะมีเครื่องหมายบอกทันทีว่า  metadata ไม่ตรงกับไฟล์เดิม และ update ภาพนั้นๆ ได้ทันที แต่ Neofinder ต้องไป update folder เอาเอง แบบว่า เล็กๆ ไม่ทำ แต่ใหญ่ๆ ทำ ทำนองนี้ และที่ไม่เหมือน Lightroom อยู่อย่างหนึ่ง การกระทำการใดๆ กับไฟล์หรือโฟลเดอร์ ต้องทำใน Lightroom เท่านั้น ทำข้างนอก มันไม่รับรู้ด้วย แต่สำหรับ Neofinder ไม่เป็นไรครับ ทำข้างนอกโปรแกรม Neofinder ดีที่สุด แล้วมา update folder ก็ได้แล้ว หรือจะเปลี่ยนชื่อไฟล์ก็ทำได้ใน Neofinder เช่นกัน

นอกเหนือจากมีช่องให้ใส่ keyword ได้เต็มที่แล้ว ยังมีช่อง Tags ให้เติมอีกด้วย อยู่ในหัวข้อ Get Info ส่วน Keywords อยู่ในหัวข้อ XMP/IPTC ซึ่งในส่วนของ  Tags  นั้น  ผมจะใส่หัวข้อหลักให้แต่ละภาพ เช่น หัวข้อใน sub folder ของ  Microstock Folder หรือใส่หัวข้อหลักอื่นๆ เช่น Family, Pet, Location, Party เหล่านี้เป็นต้น  ทำให้ข้อมูลในภาพมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังภาพข้างล่าง
ในส่วนของ  comment สำหรับใช้ระบุเหตุผลกรณีภาพไม่ผ่านการตรวจพิจารณา นั้น  Neofinder มีช่องให้ใส่ข้อความได้ครับ ดังภาพข้างบน ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ดีกว่า Lightroom  ที่ต้องใช้ plug-in ดีกว่า Phtoto Raw ที่มีช่องให้ใส่ข้อความแค่บรรทัดเดียว

นอกจากนี้ Neofinder ยังให้ผู้ใช้เพิ่มช่องข้อความเองอีก 5 ช่อง เป็น custom fields ซึ่งจะตั้งหัวข้อเองตามใจชอบได้ เฉพาะข้อมูลของ catalog ที่อยู่ในส่วนของ Library (ไม่ใช่ในภาพแต่ละภาพ) ดังภาพด้านล่าง

การคลิกเปิด folder หรือ sub folder สามารถเลือกได้ให้มันเปิดในหน้าต่างเดียวกัน หรือแยกเป็น floating window คือ หาก double click ในส่วนของ thumbnail ภาพหรือโฟลเดอร์ย่อยก็จะถูกเปิดในหน้าต่างเดียวกัน หากต้องการแยกเป็น floating window ก็ต้องไป double click ใน pane ด้านซ้าย
ถ้าใครที่ชอบการใช้งานโปรแกรมแบบ command line  Neofinder ยังมีส่วนที่เรียกว่าเป็น hidden preferences ที่สามารถ modify โปรแกรมได้เองอีกมาก โดยผ่านโปรแกรมเล็กๆ ชื่อ Terminal ซึ่งเป็น Mac OS X command line ทำให้นึกถึงสมัยที่ยังใช้ MS DOS อยู่  แต่ Mac OS X นั้น มันพัฒนามาจาก UNIX

สำหรับการ backup ฐานข้อมูลใน catalog folder ของ Neofinder นั้น ทำได้ครับ เพราะในการตั้งค่า Preferences ของโปรแกรมนั้น เราสามารถเลือกได้ว่า จะให้เก็บ database ในโฟลเดอร์ใด  แต่การ  backup นั้น Neofinder ไม่มีโปรแกรม backup ในตัว ต้องไปหาโปรแกรม backup เอาเอง
 
สรุปว่าในภาพรวม ผมว่าโปรแกรมตัวนี้น่าพึงพอใจสำหรับใช้ในการบริหารจัดการไฟล์   รายละเอียด Metadata ถือว่ามาครบทีเดียว รวมทั้ง การให้แสดงแผนที่สถานที่ที่เราไปถ่ายภาพด้วย (หากกล้องหรือมือถือเราใช้ข้อมูลจากพิกัด GPS ด้วย) เหมือนกับ Lightroom ส่วน Photo Raw 2018.5 ยังไม่ support ในเรื่องแผนที่ ปัญหาของการเลือกใช้งานโปรแกรมแบบ Neofinder คือ ถ้าเราเป็นคนที่ใช้ Lightroom เป็นประจำ ก็จะรู้สึกไม่เคยชินที่จะต้องไป process ภาพในโปรแกรมอื่น เพราะเคยชินอยู่กับ process ภาพภายใน Lightroom เอง

สุดท้ายนี้ หลังจากเสนอโปรแกรมต่างๆ ในการจัดระบบบริหารจัดการกับไฟล์ภาพถ่าย หรือที่เรียกว่า Digital Assest Managment (DAM) ผมว่าถ้าภาพถ่ายเรามีมากเป็นหมื่นๆ ภาพ หรือเราเป็นช่างภาพ stock การนำระบบ catalog software เข้ามาใช้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ซอฟต์แวร์ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมทดลองใช้ ยังมีซอฟต์แวร์อีกมากที่ทำเช่นนี้ได้ แต่ผมก็ไม่สามารถจะยกมาอ้างหรือทำเป็นตัวอย่างได้ทั้งหมด นอกจากนี้ วิธีการบริหารจัดการ DAM นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าระบบของผมจะถูกต้องหรือดีที่สุด ผมเพียงแต่นำเสนอระบบที่ผมใช้อยู่ ทั้งนี้ ทั้งนั้นผู้ใช้แต่ละคนก็ต้องนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคนเป็นหลักด้วย

สำหรับซอฟต์แวร์ที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดในบทความทั้ง 4 ตอนนั้น สามารถ download ทดลองใช้ได้ 30 วัน หรือมีเงื่อนไขอื่น เกือบทุกโปรแกรมใช้งานได้ทั้ง Windows และ Mac ยกเว้น Neofinder เป็นโปรแกรม Mac และ abeMeta เป็นโปรแกรม Windows หากสนใจคลิกตาม Link ข้างล่าง  ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับซอฟต์แวร์เหล่านี้


Adobe Lightroom & Photoshop
– Photo Mechanic
On1 Photo Raw
Affinity Photo
Neofinder
abeMeta for Windows