รีวิว L-Bracket ยี่ห้อ ProMaster สำหรับกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark II

บทความตอนนี้เป็นตอนต่อจากบทความแรกเรื่อง การตั้งค่าใช้งานกล้องโอลิมปัส E-M1 Mark II ซึ่งผมได้พูดถึงเรื่องการใช้งาน L-Plate สำหรับกล้องรุ่นนี้ว่า ผมได้สั่ง L-Plate (L-Bracket)  ยี่ห้อ ProMaster ไว้แล้ว ได้มาเมื่อไหร่จะมาเขียนให้ทราบนั้น 

บัดนี้ ได้ของมาแล้วก็จะรีวิวสั้นๆ ให้ดูหละครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก่อนอื่นขอเกริ่นสักนิดว่า สำหรับช่างภาพสาย Landscape การใช้ขาตั้งกล้องถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่ง L-Plate หรือ L-Bracket ก็จะเข้ามามีบทบาทในการวางกล้องบนขาตั้งกล้องทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่ง Plate ที่ใช้ติดใต้ฐานกล้องและด้านข้างของกล้อง มีลักษณะเป็นรูปตัว L จึงเรียกว่า L-Plate  ปกติ L-Plate ใช้สำหรับขาตั้งกล้องที่มีหัวบอลแบบ Arca-Swiss 
เราเริ่มกันที่ Specs กันก่อน ต้องตอบว่า ไม่มีครับ ไม่มีจริงๆ รู้แค่ว่าเป็น high grade aluminum น้ำหนักเท่าไหร่ ขนาดเว็บผู้ผลิตเองยังไม่มี ก็จนใจหละครับ เอาเป็นว่าน้ำหนักไม่ได้มากอะไร เพราะเป็นอลูมิเนียม ไม่ได้ทำให้กล้องรู้สึกหนักขึ้นมากมายอะไรนัก

L-Plate  สำหรับ E-M1 Mark II สำรวจแล้วมีขายกัน 3 ยี่ห้อเท่านั้น คือ Really Right Stuff ราคา $180  ยี่ห้อ Kirk  ราคา $120   ส่วน ProMaster สนนราคา $60 เอาว่าถูกสุดแล้ว  สำหรับ การสั่งซื้อค่อนข้างยุ่งยาก ผมสั่งซื้อจากเว็บ www.promaster.com  เขาส่งของให้เฉพาะที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น (ค่าส่ง $12) แต่ผมโชคดีนิดหนึ่ง มีเพื่อนอยู่ในสหรัฐฯ ก็ให้เขาส่งไปให้เพื่อน และเพื่อนผมจะกลับมาเมืองไทยอีก 2 เดือนข้างหน้าหลังจากการสั่งซื้อ ก็เลยต้องใช้เวลาหน่อยครับ ถ้าใครจะสั่งซื้อและมีเพื่อนหรือญาติอยู่ในสหรัฐฯ ก็จะทำได้ง่ายหน่อย หรือไม่มีก็ลองค้นหาตามเว็บอื่นๆ นะครับ ที่เป็น dealer รับของนี้ไปขายต่อ ก็พอหาได้อยู่

รูปร่างหน้าตาของที่มาพร้อมกับกล่อง นอกจากตัว L Bracket แล้ว ก็มีไขควงหกเหลี่ยมแถมมาให้ด้วยอันหนึ่ง
 Plate ด้านข้าง สามารถไขน็อตถอดออกได้โดยใช้ไขควงหกเหลี่ยม
มีช่องตรงด้านกริ๊พของกล้องสำหรับใส่สายกล้อง และมีรูตรงฐานเพื่อใช้กับอุปกรณ์เสริม
ใส่กับกล้องแล้ว ทำให้กล้องดูถึกบึกบึนหนาขึ้นทันตาเห็น
ส่วนน้ำหนักก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย การจับกริ๊พของกล้องก็รู้สึกว่าเต็มไม้เต็มมือ นิ้วก้อยไม่มีหลุดออกจากกริ๊พ  แต่ถ้าใครเป็นคนมือเล็กหรือเป็นผู้หญิงก็จะรู้สึกได้ว่า กริ๊พมันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะส่วนสูงของ Plate ตรงฐานสูง 1.2 ซม. จึงทำให้การจับถือค่อนข้างลำบากสำหรับคนอุ้งมือเล็ก  แต่คิดว่าใช้ๆไปก็น่าจะชินเองครับ


สำหรับการถ่ายภาพโดยวางบนขาตั้งกล้อง ถือว่าโอเคเลยครับ นอกจากนี้ เพลทตัวด้านล่างก็ไม่ได้ปิดช่องใส่แบตเตอรี่ และเพลทตัวด้านข้างก็ไม่ได้ไปปิดช่องแจ็คไมโคโฟน แจ็คหูฟัง ขั้วต่อ HDMI  และขั้วต่อ USB แต่อย่างใด ดังภาพข้างล่าง

แต่ที่เป็นจุดอ่อน หรือจุดที่ไม่สมบูรณ์ คือ หากเราต้องการถ่ายภาพผ่าน Live View การกางจอ LCD ของกล้อง ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น คือ กางจอออกได้ประมาณ 135 องศา ลองดูภาพข้างล่างนี้ครับ แทนคำอธิบายได้ดี 
อย่างไรก็ดี เมื่อกางจอออกมาในระยะ 90 องศา สามารถปรับหมุนบิดจอให้ LCD เปลี่ยนตำแหน่งจากด้านในมาเป็นด้านนอกได้ครับ ถือว่ายังดีที่ไม่ต้องถอดเพลทแนวตั้งออก ถ้าใช้กล้องในแนวตั้ง ก็ดูไม่ค่อยมีปัญหาอะไรนะครับ สามารถใช้งานในระดับที่รับได้  ไม่ว่าเมื่อติดกับขาตั้งกล้องหรือถ่ายภาพโดยใช้มือถือกล้อง ดูภาพข้างล่างครับ

ส่วนการถ่ายภาพในแนวนอน หากง้างจอออกมาแบบธรรมดา ก็ไม่สะดวกอย่างที่เขียนไว้ข้างบน เพราะง้างได้แค่ 135 องศาเท่านั้น ใช้บ่อยๆ อาจทำให้ตาเขได้  อย่างไรก็ดี สามารถปรับจอภาพให้เป็นตามแบบรูปข้างล่าง ถือว่าพอรับได้

สรุปว่า ถ้าเราใช้งานแบบไม่ต้องกางจอออกมา หรือใช้ถ่ายโดยมองผ่าน View Finder  ก็เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้สมบูรณ์เลยครับ  เว้นแต่เราจะถ่ายภาพในแนวนอนแล้วกางจอออกมาเท่านั้น ที่จะเป็นอุปสรรคในการถ่ายภาพ โดยส่วนตัว ผมพอใจจอแบบ E-M1 Mark I มากกว่า Mark II อยู่แล้ว  ดังนั้น  L-Plate ตัวนี้ มันตอบโจทย์ของผมได้ดีทีเดียว ไม่มีอะไรให้ต้องผิดหวัง และราคาก็อยู่ในระดับที่รับได้ ส่วนคนที่คาดหวังว่าจอกล้องมันจะกางออกได้องศามากกว่านี้ อาจต้องไปลองยี่ห้ออื่น เช่น Really Right Stuff แต่ดูแล้วก็ไม่มียี่ห้อไหนนะครับที่จอกางออกได้ถึง 180 องศา